โครงการศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืน

ชายผ้าสีดา

ชื่อสามัญ
ชายผ้าสีดา
ชื่อวิทยาศาสตร์
Platycerium holttumii Joncheere & Hennipman
ชื่อวงศ์
POLYPODIACEAE
ชื่ออื่น ๆ
กระเช้าสีดา, ข้าวห่อพญาอินทร์ (น่าน), สไบสีดา (เลย), กระเช้าสีดา (ภาคอีสาน), ชายผ้าสีดา, หูช้าง (ชื่อทางการค้าในกรุงเทพฯ)
ข้อมูลการสำรวจ
พิกัด
จำนวน
หมายเหตุ
ไม่มีข้อมูล
รายละเอียด
ชายผ้าสีดา จัดเป็นเฟิร์นที่เกาะอาศัยอยู่บนพรรณไม้อื่น ลำต้นเป็นแท่งเหง้าแบบแท่งดินสอ ฝังตัวอยู่ในระบบรากและใบกาบห่อหุ้ม โผล่ออกมาแต่ตายอด บริเวณยอดเหง้าปกคลุมแน่นไปด้วยเกล็ดยาว ลักษณะเป็นรูปขอบขนาน ปลายสอบแหลม เกล็ดมีขนาดใหญ่ได้ถึง 15 x 1.5 มิลลิเมตร ขอบเกล็ดหยักเป็นซี่ฟัน ทั้งลำต้นเป็นสีเขียวปนสีน้ำเงิน มีขนนวลขาวปกคลุมอยู่ทั่วไป ที่ยอดเหง้าคือส่วนที่สำคัญที่สุด หากถูกทำลายอาจทำให้ต้นตายได้ การขยายพันธุ์จำเป็นต้องอาศัยงอกจากสปอร์ใหม่เสมอ ปลูกเลี้ยงและดูแลง่าย เจริญเติบโตได้ตลอดปี หากได้รับความชื้นอย่างสม่ำเสมอและอุณหภูมิไม่ต่ำจนหนาวเย็น ชอบแสงแดดรำไรถึงแสงแดดมาก มีความชื้นในอากาศสูง ชายผ้าสีดามีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย ลาว พม่า และเวียดนาม ในบ้านเราพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ แต่จะพบได้มากทางภาคเหนือและภาคอีสาน มักอาศัยอยู่ตามคาคบไม้ขนาดใหญ่ระดับความสูงประมาณ 7-10 เมตร จากพื้นดินในป่าดิบแล้ง ใบมีลักษณะแข็งหนาเป็นมันคล้ายหนัง ใบมีสองชนิด โดยใบกาบจะเจริญเป็นแผ่นหนา มีลักษณะชูตั้งขึ้น มีขนาดกว้างและยาวประมาณ 40 เซนติเมตร ปลายบนหยักลึกเป็นแฉกหลายชั้น ปลายแยกเป็นแฉก 2 แฉก ปลายแฉกโค้งมนหรือแหลม ใบกาบช่วงบนเจริญแผ่กางขึ้นเป็นตะกร้า ขอบด้านบนแฉกหยักลึกเป็นแฉกหลายครั้ง ปลายมน ส่วนใบกาบช่วงล่างจะเจริญซ้อนทับใบกาบเก่าและโอบรัดสิ่งที่ยึดเกาะ ขอบใบเรียบหรืออาจหยักเว้าในบางต้น แผ่นใบเรียบ มีขนสั้นเป็นรูปดาวปกคลุมแน่น ส่วนเส้นใบเป็นร่างแห สีเขียวเข้มเจือสีน้ำเงิน มองเห็นได้ชัดเจน และขอบใบกาบรอบตายอดจะมีลักษณะเป็นจีบพับย่น ปิดคลุมยอดตาเหง้า ในระหว่างชั้นใบกาบ จะมีระบบรากเจริญแทรกเข้ามาอยู่ในระหว่างนั้น มีแถบสร้างสปอร์อยู่บริเวณเดียวตรงรอยเว้าที่โคน โดยใบชายผ้าแต่ละใบจะมีแผ่นสปอร์เกิดขึ้น 2 ตำแหน่ง คือ ที่ใต้ส่วนแฉกชิ้นบนและส่วนแฉกชิ้นล่าง เกิดบริเวณรอยเว้าของแต่ละชิ้น เมื่อสปอร์แก่ สปอร์จะทยอยปลิวออกไปเรื่อย ๆ ปกติสปอร์ซึ่งเกิดที่ใต้ใบชายผ้าที่งอกออกช่วงฤดูนั้น สปอร์จะแก่และพร้อมปลิวออกไปขยายพันธุ์ในต้นฤดูฝนของปีถัดไป
ลักษณะใบ
ใบมีลักษณะแข็งหนาเป็นมันคล้ายหนัง ใบมีสองชนิด โดยใบกาบจะเจริญเป็นแผ่นหนา มีลักษณะชูตั้งขึ้น มีขนาดกว้างและยาวประมาณ 40 เซนติเมตร ปลายบนหยักลึกเป็นแฉกหลายชั้น ปลายแยกเป็นแฉก 2 แฉก ปลายแฉกโค้งมนหรือแหลม ใบกาบช่วงบนเจริญแผ่กางขึ้นเป็นตะกร้า ขอบด้านบนแฉกหยักลึกเป็นแฉกหลายครั้ง ปลายมน ส่วนใบกาบช่วงล่างจะเจริญซ้อนทับใบกาบเก่าและโอบรัดสิ่งที่ยึดเกาะ ขอบใบเรียบหรืออาจหยักเว้าในบางต้น แผ่นใบเรียบ มีขนสั้นเป็นรูปดาวปกคลุมแน่น ส่วนเส้นใบเป็นร่างแห สีเขียวเข้มเจือสีน้ำเงิน มองเห็นได้ชัดเจน และขอบใบกาบรอบตายอดจะมีลักษณะเป็นจีบพับย่น ปิดคลุมยอดตาเหง้า ในระหว่างชั้นใบกาบ จะมีระบบรากเจริญแทรกเข้ามาอยู่ในระหว่างนั้น
ลักษณะผล
มีแถบสร้างสปอร์อยู่บริเวณเดียวตรงรอยเว้าที่โคน โดยใบชายผ้าแต่ละใบจะมีแผ่นสปอร์เกิดขึ้น 2 ตำแหน่ง คือ ที่ใต้ส่วนแฉกชิ้นบนและส่วนแฉกชิ้นล่าง เกิดบริเวณรอยเว้าของแต่ละชิ้น เมื่อสปอร์แก่ สปอร์จะทยอยปลิวออกไปเรื่อย ๆ ปกติสปอร์ซึ่งเกิดที่ใต้ใบชายผ้าที่งอกออกช่วงฤดูนั้น สปอร์จะแก่และพร้อมปลิวออกไปขยายพันธุ์ในต้นฤดูฝนของปีถัดไป
ขนาด
ลำต้นเป็นแท่งเหง้าแบบแท่งดินสอ ฝังตัวอยู่ในระบบรากและใบกาบห่อหุ้ม โผล่ออกมาแต่ตายอด บริเวณยอดเหง้าปกคลุมแน่นไปด้วยเกล็ดยาว ลักษณะเป็นรูปขอบขนาน ปลายสอบแหลม เกล็ดมีขนาดใหญ่ได้ถึง 15 x 1.5 มิลลิเมตร ขอบเกล็ดหยักเป็นซี่ฟัน
พฤติกรรม
อาศัยอยู่ตามคาคบไม้ขนาดใหญ่ระดับความสูงประมาณ 7-10 เมตร จากพื้นดินในป่าดิบแล้ง
ถิ่นที่อยู่อาศัย
มักอาศัยอยู่ตามคาคบไม้ขนาดใหญ่ระดับความสูงประมาณ 7-10 เมตร จากพื้นดินในป่าดิบแล้ง
การกระจายพันธุ์
ชายผ้าสีดามีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย ลาว พม่า และเวียดนาม ในบ้านเราพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ แต่จะพบได้มากทางภาคเหนือและภาคอีสาน
ที่มาของเรื่องและภาพ
ชายผ้าสีดา https://medthai.com สืบค้นเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2567
Loading...

กำลังประมวลผล กรุณารอสักครู่